เมื่อวันที่ 7-14 ส.ค. ที่ผ่านมา นคท. ไต้หวัน หรือ CEF ได้มาเยี่ยมเยียนการทำพันธกิจนักศึกษาในไทย โดยไปร่วมกิจกรรมกลุ่มเซลล์ที่จุฬาฯ และม.ราม ในกรุงเทพฯ รวมถึงเดินทางไปดูงานมิชชั่นที่ภาคใต้ ตัวแทน 5 คนจากทีมไต้หวันร่วมแบ่งปันความประทับใจในการมาเยือนครั้งนี้ (แปลจากภาษาจีน)
แท้จริงแล้วเราคือผู้ที่ได้รับการต้อนรับอย่างเสียเอง ไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือที่ภาคใต้ เราได้รับการดูแลในทุกด้านของชีวิต และเราสัมผัสได้ถึงการยอมรับและการสร้างความสัมพันธ์ที่จริงใจที่สุดจากพี่น้องทุกคน - จงจุน จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติเจียวถง คณะเภสัชศาสตร์
ฉันไม่เคยพบปะกับเพื่อนมุสลิมในไต้หวันมาก่อนเลย หลังจากได้ติดต่อกับนักศึกษาภาคใต้ของประเทศไทย ฉันพบว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้แตกต่างกันมาก เราชอบของคล้าย ๆ กัน และมีนิสัยการใช้ชีวิตคล้ายกันมาก ฉันคิดว่าเราเข้ากันได้ง่ายกว่าคนในประเทศของฉันเองอีก ประสบการณ์ที่ภาคใต้ได้เปิดหูเปิดตาฉันให้กว้างไกลขึ้นจริงๆ หลังจากกลับมาที่จีน ฉันก็เต็มใจที่จะพูดคุยกับเพื่อนๆ ต่างชาติต่างวัฒนธรรมมากขึ้น - ซู ยี่นัว มหาวิทยาลัยแห่งชาติจงซิง
หลังจากได้รู้จักและพูดคุยกับเพื่อนนศ.ที่ภาคใต้แล้ว ฉันพบว่าพวกเขามีชีวิตชีวา เปิดกว้าง และเข้ากับคนได้ง่ายมากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้เสียอีก จริงๆแล้วพวกเขาไม่ได้ต่างจากเรา แต่ที่ไต้หวันฉันรู้สึกว่าพวกเขาด้อยกว่าเรา หลังจากประสบการณ์นี้ฉันได้เตือนตัวเองว่าอย่าแบ่งแยกคนเป็นประเภทต่างๆ แต่ให้ปฏิบัติต่อทุกคนเหมือนกัน สำหรับเพื่อนนศ.ในกรุงเทพฯ ฉันค้นพบว่าพวกเขาเป็นธรรมชาติมาก และทำกลุ่มเซลล์ได้ดี ถายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกปิดกั้นมากกว่าที่ไต้หวัน ทำให้ฉันตระหนักถึงคุณค่าและสิทธิในฐานะคริสเตียนในไต้หวันของตัวเองมากขึ้น - ซู เอินจง มหาวิทยาลัยอิสัว
ตอนที่ฉันได้เจอกับเพื่อนนศ.ทั้งในกรุงเทพฯ และภาคใต้ เรารู้สึกได้ว่าพวกเขามีความสุขที่ได้แนะนำสิ่งที่ชอบหรือมีชื่อเสียงในท้องถิ่น พวกเขาต้อนรับเราอย่างอบอุ่น และอยากจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับเรา พวกเรามีความสุขและรู้สึกเป็นที่รักจริงๆ จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมครั้งนี้ ฉันเห็นว่าพวกเขามีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากมายในสภาพแวดล้อมที่จำกัด มีแนวคิดมากมายที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน ขอบคุณมากๆ สำหรับทริปแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมครั้งนี้ซึ่งทำให้ฉันได้ ขยายขอบเขตของตัวเองไปไกลมากขึ้นจริงๆ – หวง เอินฉี มหาวิทยาลัยคาทอลิกฟูเจน
ผมรู้สึกขอบคุณสำหรับการเดินทางเชิงวัฒนธรรมครั้งนี้ที่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก เดิมทีผมมีทัศนคติเหมารวมเกี่ยวกับพี่น้องต่างศาสนา แต่หลังจากได้รู้จักพูดคุยกันแล้ว ผมพบว่าพวกเขาเป็นคนน่ารัก ซื่อๆ และกระตือรือร้น เต็มไปด้วยความอยากรู้จักกับพวกเรา และกระตือรือร้นอย่างมากที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเรา ซึ่งทำให้ผมซาบซึ้งใจมาก ผมเห็นว่าพระเจ้าต้องการจะสอนเราผ่านคนอื่นๆ ด้วย ผมเรียนรู้ที่จะไม่รีบตัดสินใคร หรือคนกลุ่มใดด้วยอคติ ผมควรทบทวนตัวเอง และเปิดใจยอมรับทุกคน – เถียน ซินโหรว มหาวิทยาลัยการศึกษาแห่งชาติไถจง