Photo by Zach Vessels on Unsplash
ผมเองตัดสินใจออกจากการทำงานประจำ มารับใช้พระเจ้าเต็มเวลา ความยากลำบากในการรับใช้พระเจ้าของผมนั้นบอกเลยว่ามีไม่น้อย ผมเองเคยได้รับเงินเดือนที่ค่อนข้างจะสูง (ในสมัยที่จบใหม่) แต่เมื่อผมตัดสินใจมารับใช้พระเจ้าแล้วนั้น สิ่งที่ตามมาคือ เงินเดือนที่ไม่ได้สูงตามอุดมการณ์เลย
Photo by Josh Appel on Unsplash
สิ่งที่เป็นอุปสรรคของผมในการรับใช้คือ อารมณ์ ความรู้สึก และความอยากได้อยากมี อารมณ์กับความรู้สึกนั้น เป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ บางทีการจริงจังมากเกินไป แต่ผู้อื่นไม่ได้จริงจังและเห็นถึงความสำคัญจุดเดียวกันกับเรานั้น ก็ทำให้อารมณ์ของเราขุ่นมัวได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การเริ่มงานตรงเวลา เมื่อเพื่อนร่วมงานไม่ตรงเวลา เราเองก็ยืดหยุ่นตามไป ทำให้เราเองก็ไม่ตรงเวลาไปด้วย เพราะคิดว่าไปถึงที่ทำงานก็ยังไม่มีใครมาอยู่ดี (จากแต่ก่อนตรงเวลามาก) หรือการส่งงานผ่านทางไลน์ ซึ่งได้มีการส่งไปนานแล้ว แต่ทางผู้รับไม่โหลดเก็บไว้ ทำให้ไฟล์งานหมดอายุ แล้วเราก็ต้องมานั่งส่งให้ใหม่ ซึ่งในบางทีก็เสียเวลาในการทำงานชิ้นอื่น ในส่วนของความอยากได้อยากมี(กิเลส)นั้น ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปกติของมนุษย์ทั่วไป ที่เห็นคนอื่นมี เราเองก็อยากมีกับเขาด้วย ถ้าหากวันนี้ผมยังทำงานเป็นวิศวกรอยู่ ผมเชื่อว่าสิ่งเหล่านั้น ผมสามารถมีได้ โดยที่จะไม่น้อยหน้าคนอื่นแน่นอน แต่ ณ ปัจจุบันนี้ ผมเองไม่สามารถมีแบบคนอื่นได้ เพราะเส้นทางแห่งการรับใช้นี้ ไม่ได้ร่ำรวยและไม่มีผลกำไรที่เป็นเม็ดเงินให้เรามากขนาดนั้น
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ผมเองไม่เคยคิดเสียใจเลยที่ผมนั้นไม่ได้ไม่มีแบบคนอื่น
เพราะสิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อ และผมรู้คือ พระเจ้ารักผมมาก และพระเจ้าก็พร้อมจะดูแล เพิ่มเติมในสิ่งที่ผมขาด เสริมเติมแต่งในส่วนที่มีอยู่แล้ว
ถึงแม้จะมีไม่มาก แต่ก็ไม่เคยขาดสิ่งดีใดๆ สิ่งเหล่านี้ที่ผมกล้าพูด เพราะผมเจอกับตัวมาแล้ว วันที่เราจำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ เงินทอง ฯลฯ พระเจ้าไม่ละทิ้งคนของพระองค์ พระองค์จะทรงประทานให้ อาจจะลุ้นๆในช่วงเวลาแห่งการรอคอยหน่อย แต่ขอให้เราเชื่อเถิดว่า พระเจ้าไม่ช้า ไม่สาย พระองค์ทันเวลาเสมอ
ขชลธนัท รักสอน (โปเต้)
เจ้าหน้าที่ประจำคริสตจักร
คริสตจักรคลองเตย (สุขุมวิท93)
Comments