ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเนื้อหาค่ายนี้เท่าไหร่นะ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องของธุรกิจอะไรทำนองนั้น จะคาดหวังเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ร่วมค่ายมากกว่า
แต่พอได้ไปที่แรกในค่ายคือ เมืองอุตสาหกรรม ทองโกรว สิ่งแรกที่เห็นเลยคือข้อพระคัมภีร์บนผนังตัวใหญ่ๆเลย ที่พูดถึงการยำเกรงพระเจ้า ทำให้เรารู้สึกว่า พี่สุธีมีพนักงานมากมาย มีธุรกิจมูลค่าหลักร้อยล้าน มีคนนับถือเชิดชูมากมาย แต่เค้าก็ยังยกความยำเกรงพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญ จากนั้นก็ได้ไปเยี่ยมชมบริเวณโรงงานต่างๆในเมืองอุตสาหกรรม เราตื่นตากับความละเอียดในการออกแบบระบบต่างๆที่อยู่ในเมืองอุตสาหกรรมนี้มาก ทั้งเรื่องของระบบน้ำ ไฟฟ้า ช่องทางการขนส่งโดยสาร ทั้งหมดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้อำนวยความสะดวกต่อลูกค้า และเพื่อให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายน้อยที่สุด ทำให้นึกถึงความละเอียดในการออกแบบสิ่งทรงสร้างต่างๆของพระเจ้า
แล้วมาถึงช่วงสัมภาษณ์พี่สุธี ก็ได้เห็นถึงการทำธุรกิจที่พึ่งพาพระคุณพระเจ้าอีก รู้สึกเป็นการเปิดโลกครั้งใหม่เลย จากที่เห็นภาพแค่ว่าโลกธุกิจจะถูกขับเคลื่อนด้วยเงินอย่างเดียว
จากนั้นเช้าวันต่อมาก็ได้ฟังพี่สุเมธแบ่งปันสิ่ง reflect กับตัวเองได้คือ ในการทำงานของเรา ที่ดูไม่เกี่ยวกับพระเจ้า เราก็ทำเพื่อพระเจ้าได้นะ แค่เราทำสิ่งตรงหน้าให้ดี เต็มที่ แล้วก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ผลออกมาสู่คนรอบข้างก็จะดี แล้วคนรอบข้างก็จะเห็นพระเจ้าในเรา ทำให้เรานึกถึงครั้งนึงที่เคยคุยถามคำถามกับพี่ที่เป็นผู้นำคริสเตียนคนนึงว่า ใน
บริบทการเป็นช่าง(อาชีพของเรา) เราจะรับใช้พระเจ้าได้ยังไง
พี่คนนั้นก็ตอบกลับด้วยคำตอบสั้นๆว่า ทำรถให้เหมือนที่พระเจ้าทำเรา ให้มีความปลอดภัย แต่สร้างประสบการณ์ดีๆให้กับเจ้าของรถ สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำเรื่องนี้สำหรับตัวเราเข้าไปอีก แล้วยิ่งพี่น้องคริสเตรียนที่มีสายงานต่างกันมากมาย ร่วมกันทำงานของตัวเองให้เต็มที่ ทำงานของเราให้เหมือนพระเจ้าทำงานของพระเจ้า คนรอบตัวเราก็จะเห็นพระเจ้าผ่านเรา และแผ่นดินของพระเจ้าจะขยายออกไป
ฐาปกรณ์ โอษฐ์นภาพร(เบย์)
GCF