“เราจะฟังเสียงของพระเจ้าให้ชัดเจนได้อย่างไร?…ท่ามกลางเสียงมากมาย และการอ่านพระคัมภีร์ที่น้อยลงในยุคปัจจุบัน”
“ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปทิศใดหลักการพื้นฐานสำคัญที่สุด
เราต้องกลับไปที่พระคัมภีร์ซึ่งเป็นพระวจนะของพระเจ้า”
ความจริงแล้วเสียงของพระเจ้าอยู่ในพระคัมภีร์ กว่า 90% ที่พระเจ้าจะตรัสกับเราอยู่ในพระคัมภีร์ทั้งสิ้น มีบางเปอร์เซนต์ที่เกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว หรือการสำแดงด้วยของประทานของบางคนที่มีการตรัสด้วยทางอื่น ถ้าเราได้มีเวลาอ่านและเข้าใจพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้าก็จะหนุนจิตชูใจ และเตือนสติเราอยู่เรื่อยๆ ว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควรทำ บางเรื่องก็สามารถเข้าใจได้ง่ายๆ และเชื่อฟังได้ทันที
“ชีวิตที่บังเกิดใหม่คือพื้นฐานสำคัญในการอ่านพระคัมภีร์”
ประการแรก ต้องเข้าใจว่า “พระคัมภีร์คือพระวจนะของพระเจ้า” ในพระคัมภีร์เขียนไว้ชัดเจนว่าพระเจ้าทรงกำชับ ทรงสั่งให้ผู้ที่พระเจ้าทรงดลใจเขียนขึ้น
ประการที่สอง “พระวจนะของพระเจ้าเกี่ยวข้องกับฝ่ายวิญญาณ” ชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราเป็นอย่างไร ชีวิตของเราก็จะเกี่ยวพันกับพระวจนะของพระเจ้าอย่างนั้น
ตอนที่ผมได้ถวายชีวิตให้กับพระเจ้าและเริ่มต้นอ่านพระคัมภีร์ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในใจ รู้สึกว่าพระคัมภีร์มีความหมาย เกิดความหิวกระหาย พยายามหาที่สงบในการอ่านพระคัมภีร์จนต้องไปนั่งอยู่ที่ขั้นบันไดดาดฟ้าทุกเช้าเพื่ออ่านพระคัมภีร์ที่นั่น
นี่เป็นพื้นฐานที่สำคัญ ถ้าเรายังไม่มีชีวิตที่บังเกิดใหม่ การอ่านพระคัมภีร์ก็เป็นสิ่งที่ทำได้ลำบากไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม แต่ในทางตรงกันข้ามการอ่านพระคัมภีร์ก็มีส่วนทำให้เราได้บังเกิดใหม่ ชีวิตได้สัมผัสกับพระเจ้าเช่นกัน
อ.ทองหล่อ วงศ์กำชัย
Comentários