เมื่อวันที่ 21 ก.ย. - 2 ต.ค.ที่ผ่านมา สต๊าฟเจี๊ยบ และสต๊าฟเปาได้เดินทางไปเชียงใหม่
เพื่อร่วมค่าย "แสงสะท้อน" กับชมรมคริสเตียนมช. และเยี่ยมเยียนนักศึกษา ผู้สำเร็จการศึกษา อาสาสมัครที่รักนักศึกษาเป็นชีวิตจิตใจ และทำพันธกิจด้วยนิมิตที่ชัดเจนเต็มเปี่ยม
สต๊าฟเจี๊ยบ : “ความห่างไกล...หาใช่อุปสรรค”
2 สัปดาห์นี้ดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่นานแต่ความจริงสั้นแป๊บเดียว พวกเราจึงฉวยทุกโอกาส ทุกจังหวะเพื่อจะได้พบปะ และใช้เวลากับพี่น้องคริสเตียน การเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ๆ กับ นศ. และวัยทำงานเป็นสิ่งที่ท้าทายเราเสมอ ไม่เพียงแต่สร้างสัมพันธ์ทว่าสิ่งที่เราอยากจะฝากกับพวกเขาไว้คือพระคำของพระเจ้า และการส่งต่อนิมิตจากรุ่นสู่รุ่น ที่ให้คนรุ่นนั้นๆ เกิดความรับผิดชอบ เกิดการริเริ่มและลงมือทำบางอย่าง เพื่อนำข่าวประเสริฐไปถึงผู้คนที่อยู่รอบข้าง
แม้เวลาจะสั้นพระเจ้าก็นำให้ได้คุยกับหลายคนทั้งกับผู้นำ นศ.มช. และแม่โจ้ หัวใจที่พร้อมของ นศ.ต่อพระคำ ทำให้เขากล้าคุย กล้าเล่าถึงการดิ้นรนต่อสู้ และจุดอ่อนที่พร้อมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลง ขอบคุณพระเจ้าที่เราไม่ต้องใช้เวลานานกว่าน้องจะกล้าเปิด กล้าเล่า ทำให้เห็นว่าพระเจ้านำ และช่วยเราเป็นอย่างมากที่ได้ใช้เวลาด้วยกัน แม้เราอยู่ไกลแต่ความห่วงใยทำให้รู้สึกใกล้และผูกพัน อีกทั้งได้ใช้เวลากับ GCF ทั้งอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมคนปัจจุบัน และอดีตที่เคยดูแลเจี๊ยบสมัยเป็นนักศึกษานู้น นับเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เต็มไปด้วยคุณภาพ
พวกเราได้แบ่งปันประสบการณ์กับพระเจ้าให้กันและกัน และจุดที่เราเห็นตรงกัน คือ พันธกิจนักศึกษาเป็นของนักศึกษา งานนักศึกษาสำคัญ และยิ่งมีรุ่นพี่กลับมาช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ เคียงข้างเพื่อให้พวกเขาเห็นต้นแบบว่าเมื่อนักศึกษาจบไปแล้วพวกเขาจะยังรักพระเจ้าเหนียวแน่น รักพี่น้องเหมือนเคย และกลับมามีส่วนในงานนักศึกษาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ยิ่งเราได้เห็น GCF หลายคนออกไปเป็นพระพรกับผู้คนในสังคม ยิ่งทำให้เห็นว่าการเป็นนักศึกษา และการกลับมาของพี่ GCF ในงานพันธกิจมันแข็งแกร่ง เป็นชีวิตที่สะท้อนพระฉาย ขอบคุณทุกมิตรภาพ และการใช้เวลาร่วมกันในทุกเสี้ยวนาที จากนี้ไปก็ทักทายกันทางออนไลน์ ฉะไหนเลยมิตรภาพที่ไกลจะเป็นอุปสรรค
สต๊าฟเปา : “กลุ่มคน เป็นตัวจริงในการขับเคลื่อนพันธกิจคือนักศึกษา”
เชื่อหรือไม่? มีมหาวิทยาลัยบางแห่งที่วันนี้ยังไม่มีสต๊าฟ นคท. ไปดูแลกลุ่มเซลเป็นประจำ แต่น้องๆ นักศึกษายังทำพันธกิจนักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้อย่างเข้มแข็ง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะน้องๆ นักศึกษาที่แม่โจ้ และ มช. ยังสามารถทำพันธกิจอยู่ได้!! เป็นไปได้ไง?
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะทั้ง มช. และแม่โจ้ มีอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมที่เข้าใจนิมิต และปรัชญา นคท. เป็นอย่างดีซึ่งผม ในฐานะสต๊าฟ นคท. คนหนึ่ง พูดได้เลยว่าทั้ง อ.บัวเรียม จาก ม.แม่โจ้ และ อ.ฝน จาก มช. มีหัวใจในการเป็นสต๊าฟ นคท. แบบเต็มเปี่ยมสุดๆ มีหัวใจที่รักนักศึกษาสุดๆ มีหัวใจในการเป็นผู้เลี้ยงที่ดี อยากเห็นนักศึกษาเติบโตในทางพระเจ้า และนี่แหละ!! เป็นเหตุผลที่ทำให้กลุ่มเซลแม่โจ้ และกลุ่มเซล มช. ยังไปต่อได้ แม้ว่าไม่มีสต๊าฟก็ตาม
และเรื่องไม่จบเพียงเท่านี้? เพราะกลุ่มคนเป็นตัวจริงในการขับเคลื่อนพันธกิจคือนักศึกษา ขอบคุณพระเจ้าที่ผมได้มีโอกาสใช้เวลากับน้องผู้นำนักศึกษา และได้มีโอกาสไปอยู่บ้านกับน้องวิท ประธานชมรมคริสเตียนแม่โจ้ ในมุมหนึ่งก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมไม่ต้องเสียค่าที่พัก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ขอบคุณพระเจ้าที่ผมได้ใช้เวลากับน้องวิทแทบจะทั้งวันทั้งคืน ได้นั่งพูดคุยกันหลายเรื่อง ทำให้ได้เห็นพลัง และภาระใจของน้องวิทในการอยากดูแลเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัย เป็นอะไรที่สุดยอดมากจริงๆ ถ้าอยากได้ฟังอะไรที่สุดยอดแบบนี้ต้องมาเป็นสต๊าฟ นคท. กันแล้วแหละ
แต่สุดท้าย ทริปนี้จะไม่สำเร็จลุล่วงด้วยดี ถ้าไม่มีผู้ให้การสนับสนุนในพันธกิจนี้ ขอบคุณน้องวิน น้องเนย และป้ายุที่ดูแลความเป็นอยู่ในทุกๆ เรื่องตลอดไปจนถึงการอยู่การกินที่เชียงใหม่ ขอบคุณพี่เธอูและเจสซี่ เพื่อนร่วมห้องเรียน BIT ที่ดูแลอย่างดีตลอดการเดินทางในเชียงใหม่ และพาไปคาเฟ่เจ๋งๆ ขอบคุณน้องเลย์ที่อุตส่าห์มารับไปสนามบิน และได้ใช้เวลาด้วยกัน ขอบคุณพี่น้องอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง ถ้าจะกล่าวทั้งหมดคงเยอะมาก ทั้งหมดนี้ขอขอบคุณพระเจ้าผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่างที่ทำให้ทริปนี้สำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี
วินและเนย GCF จากขอนแก่นที่ ณ วันนี้มาอยู่เชียงใหม่ เป็นพี่น้องที่คอยสนับสนุนและเลี้ยงดูสต๊าฟอย่างดีในทริปนี้
อ.ฝน อาจารย์ที่ดูแลกลุ่มเซล มช.ด้วยภาระใจที่เปี่ยมล้น
ครอบครัวอ.ฝน
น้องนักศึกษาเซลล์มช.ที่มากันอย่างล้นหลามหลังจัดค่าย 25 คน
อ.บัวเรียม ที่ดูแลนศ.แม่โจ้ด้วยหัวใจแห่งการเลี้ยงดูที่เข้าใจพันธกิจนักศึกษาอย่างแท้จริง
