ผมและทีมงานตัดสินใจทำตลาดนัดคริสเตียน เพราะเราอยากช่วยเหลือพีน้องคริสเตียนที่ตกงาน และมีรายได้ลดลง
ให้มีพื้นที่ขายสินค้าที่พวกเขาสร้างขึ้นมาใหม่ เพิ่มรายได้ และรู้จักคริสเตียนจากคริสตจักรอื่นๆ รวมถึงการประชาสัมพันธ์พันธกิจคริสเตียนในองค์กรต่างๆ
ผมคิดว่าเราทุกคนมีความแตกต่างกัน เราเป็นคริสเตียนเหมือนกัน แต่บางครั้งก็มีแนวคิดไม่เหมือนกัน
เช่น บางคนเลือกที่จะกินบางอย่าง หรือไม่กินบางอย่าง หรือ บางคนเน้นความเชื่อเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ และบางคนไม่ได้เน้นเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์มาก ในการทำตลาดนัดนี้ หลายร้านค้า และคนที่มาเดินตลาดนัดคริสเตียน ที่มาจากหลากหลายสังกัด หลากหลายแนวคิดมาร่วมกันขายของ ร่วมกันซื้อของ ร่วมกันช่วยเหลือ ร่วมกันรับใช้ซึ่งกันและกัน ผมว่าเป็นภาพที่ดี ที่เราได้เห็นการรับใช้ร่วมกัน และมองข้ามความแตกต่างปลีกย่อยมาร่วมกันเป็นพระกายของพระคริสต์
ในวันที่เราจัดตลาดนัดมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นคือ อยู่ๆฝนก็ตกลงมาทั้ง 2 วันเลย ทั้งๆที่พยากรณ์อากาศบอกว่าอากาศจะดีแค่มีเมฆมาก ในใจผมก็คิดว่า แย่แล้ว จะทำยังไงกันดี งานคงล่ม แทนที่ร้านค้าจะได้รับความช่วยเหลือ กับกลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้กับเขาอีก
ในวันแรกที่ฝนก็ตกลงมาหนักแบบไม่ทันตั้งตัว ร้านค้า แทบเก็บของไม่ทัน เราทุกคนก็หลบฝนกันซักพัก พอฝนเริ่มหยุด เราก็ออกมาตั้งร้านกันต่อ บางร้านก็ไม่สามารถตั้งร้านได้เพราะปลั๊กไฟเปียก แต่สุดท้ายทุกร้านก็ออกมาเปิดร้านกันต่อ ไฟรอบงานเปิด รายการบนเวทีก็เริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง แล้วคนที่มาร่วมงานก็ทยอยเข้ามาที่ตลาดนัดเรื่อยๆ จนเต็มหน้าเวที ทั้งคนที่เป็นคริสเตียนและไม่เป็นคริสเตียน ผมรู้สึก ตกใจว่า ทำไมหลังฝนตกคนถึงมากขึ้น ปกติแล้วคนต้องน้อยลงสิ เราเลยขอบคุณพระเจ้า
เราอธิษฐานเยอะมาก ขอพระเจ้าช่วยเรา ที่จะห้ามฝนที่จะไม่ตกวันที่มีตลาดนัดวันที่ 2 แต่ในวันที่ 2 ฝนก็ยังคงตกอยู่ แต่มันทำให้ผมรู้ว่า ที่พระเจ้าไม่ได้ให้ฝนหยุดตก เพราะพระเจ้าอยากให้เราเห็นภาพที่คริสเตียนช่วยเหลือกัน รับใช้ซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ และที่สำคัญคือไม่มีทีมงานคนไหนได้ยินร้านค้า และคนที่มาเดินตลาดบ่นเลยซักนิด
ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้ผมและทีมงานได้ทำตลาดนัดครั้งนี้ แม้จะเป็นงานที่เหนื่อยและหนักมากสำหรับทีมงาน แต่พองานจบผมคิดว่าพระเจ้าคงจะยิ้ม ที่เห็นเราทุกคนช่วยเหลือกัน และรับใช้กันและกัน