ในช่วงโรคระบาด ซาได้เห็นความตั้งใจของพี่น้องในการรักษาสามัคคีธรรม โดยใช้เทคโนโลยี และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อที่จะยังสามารถเสริมสร้างกันและกัน ถึงแม้จะมีข้อจำกัดในเรื่อง social distancing
แม้ว่าก่อนหน้านี้เราอาจจะไม่ได้คิดถึงวิธีการใหม่ในการสามัคคีธรรมมาก่อน แต่เมื่อถึงสถานการณ์บังคับให้ต้องปรับตัว เราก็สามารถทำได้ และยังเห็นข้อดีในความเปลี่ยนแปลง มีประสบการณ์สองอย่างที่ซาประทับใจคือ คือ การเข้าเซลออนไลน์ และการเข้าค่ายออนไลน์
Photo by John Schnobrich on Unsplash
ในเซลออนไลน์ของกลุ่มวัยรุ่นที่คริสตจักร ซาก็ได้เห็นว่าการที่เรา Go online ทำให้เราไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ หรือการเดินทาง เพื่อนๆ อนุชนหลายคนสามารถมาร่วมได้ ซึ่งปกติอาจจะมาไม่ได้เพราะติดเรื่องเวลา หรือการเดินทาง แต่พอเป็นช่วงโรคระบาด ก็มีเวลาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็ยังใช้เวลาสามัคคีธรรม และหนุนใจกันในสถานการณ์ที่ท้าทาย
นอกจากนี้ ซายังได้ร่วมค่ายเข็มทิศออนไลน์ ที่จัดโดย นคท ที่เมื่อไม่มีข้อจำกัดทั้งเรื่องสถานที่ หรือค่าใช้จ่าย ในค่ายออนไลน์นี้ทำให้ซาได้เจอ และพูดคุยกับเพื่อนๆ และรุ่นพี่คริสเตียนทั้งที่มาจากกรุงเทพเหมือนกัน และเพื่อนที่อยู่ไกลออกไปเช่น มาจากภาคใต้ แต่เราสามารถใช้เวลาร่วมกัน และเรียนรู้จักมุมมองการทำงานตามพระคัมภีร์ได้ร่วมกัน ได้มีประสบการณ์กับมิติใหม่ในการเข้าค่ายร่วมกัน ถึงแม้จะอยู่ต่างที่กัน เพียงแต่ต้องแยกย้ายตอนพักกินข้าว หรือ ไม่ได้ค้างคืนในที่เดียวกัน ☺
Photo by Christin Hume on Unsplash
ความท้าทายในการสามัคคีธรรมรูปแบบใหม่นี้ที่ทุกคนเจอคือ การมีสมาธิกับสิ่งที่เรากำลังทำร่วมกันออนไลน์ เช่น ตั้งใจฟังเพื่อนที่กำลังพูดขอบคุณพระเจ้า หรือ ฟังพี่สต๊าฟที่กำลังสอนพระคัมภีร์อยู่ โดยที่ไม่ผลอยหลับ หรือ วอกแวกไปสนใจอย่างอื่นแทน ซึ่งทำให้เราได้ฝึกฝนตัวเอง และเป็นเหมือนการทดสอบความตั้งใจของเรา สรุปคือแม้ในสถานการณ์ที่ท้าทาย เรายังได้เห็นข้อดีในการสามัคคีธรรมร่วมกันในช่องทางใหม่ ที่ช่วยให้เราเข้าถึงกันได้ และสามารถรักษาความสัมพันธ์กับพี่น้องเพื่อเสริมสร้างชีวิตกัน ให้เดินหน้าต่อไปในทางของพระเจ้า
สาริน ธนพันธ์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปี4 คณะจิตวิทยา
Comentários