การเข้าหาพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เราหรือสร้างเราให้มีวิธีคิดยังไงที่ไม่ย่อท้อต่อปัญหา

คงต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะเชื่อพระเจ้า ตนเองเป็นคนที่ขี้กลัวมาก และไม่ชอบเผชิญปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น มีพี่สาวเป็นผู้ที่คอยช่วยแก้ปัญหาให้ทุกเรื่อง

จนพี่สาวถึงกับออกปากว่า “ไม่มีฉัน เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร”

Photo by Piron Guillaume on Unsplash

เมื่อมารู้จักกับพระเจ้าตอนเป็นนักศึกษาปีที่ 3 ได้มีโอกาสร่วมกลุ่มเซลล์ตอนเย็น ใต้หอหญิง สัปดาห์ละครั้ง ได้รับคำสอนที่ดีหลายอย่าง อาทิ พี่ทองหล่อ (อ. ทองหล่อ วงศ์กำชัย) สอนว่า “เราควรเฝ้าเดี่ยวในตอนเช้าทุกวัน เพื่อเป็นการใช้เวลาที่ดีที่สุดของวันกับพระเจ้า” พี่ปรีดา (นพ. ปรีดา โมทนาพระคุณ) สอนว่า “เวลาอ่านพระคัมภีร์ให้คิดว่าพระเจ้ากำลังสอนอะไรเรา อย่าไปคิดว่าพระคำตอนนี้เหมาะกับคนโน้น คนนี้” นอกจากนี้ ยังมีคำสอนจากคริสตจักรด้วย เช่น พี่ปรานี (Ms.Dorothy Mainhood) สอนให้ท่องพระคัมภีร์ พี่สมพร (อ. สมพร ศิริกลการ) เทศนาว่า “พระเจ้าประทานพระคำมาเพื่อให้เราดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข เพราะพระองค์รักและปรารถนาดีต่อเรา” พี่ชุงเซ้ง (อ. ชุมแสง เรืองเจริญสุข) เทศนาว่า “ให้เราหยั่งรากลงในพระคำของพระเจ้า” ทำให้ตนเองซึ่งในขณะนั้นเพิ่งจะเชื่อพระเจ้าใหม่ๆ รับมาเป็นหลักคิดและปฏิบัติจนถึงทุกวันนี้

การเข้าหาพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอช่วยให้เราหรือสร้างเราให้มีวิธีคิดยังไงที่ไม่ย่อท้อต่อปัญหา

อย่างที่บอกในตอนต้นว่าตนเองเป็นคนที่ไม่ชอบปัญหา แต่เมื่อเชื่อพระเจ้าแล้ว กลับพบว่ามีปัญหามากกว่าเดิมอีก เริ่มจากครอบครัวที่พ่อและแม่ไม่สบายใจอย่างยิ่งที่ลูกมาเชื่อพระเจ้า ด้วยความเป็นห่วงว่าเราจะกลายเป็นคนที่ผิดแผกจากคนส่วนใหญ่ เพื่อนๆ ก็มองว่าเราคลั่งศาสนา แต่พระคำของพระเจ้าใน

โรม 5: 1-5 “เพราะฉะนั้น เมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยความเชื่อแล้ว เราจึงอยู่อย่างสงบสุขเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา โดยทางพระองค์เราจึงเข้ามายืนอยู่ในร่มพระคุณนี้ และเราชื่นชมยินดีในความหวังว่าจะได้มีส่วนในพระสิริของพระเจ้า ยิ่งกว่านั้น เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้ และการที่เป็นเช่นนั้นทำให้มีความหวัง และความหวังจะไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเหตุว่าความรักของพระเจ้าได้หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา โดยทางพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระองค์ได้ประทานให้แก่เราแล้ว”

ทำให้สัมผัสถึงความรักของพระเจ้าที่หลั่งเข้ามาท่วมใจ และตระหนักชัดเจนว่าถึงใครจะไม่ชอบใจเรา แต่พระเจ้ารักเรามากมายจริงๆ

Photo by Testalize.me on Unsplash

สมัยที่ยังเรียนหนังสือ ก็มีปัญหาเช่นเดียวกับนักศึกษาคนอื่นๆ เพราะเนื้อหาที่เรียนมีมาก แถมตนเองเป็นคนที่กลัวเลือด กลัวแผล กลัวความเจ็บป่วย กลัวทำให้คนไข้แย่กว่าเดิม แต่ในการเข้าเฝ้าพระเจ้าทุกเช้า ทำให้ได้รับกำลังและสติปัญญาจากพระเจ้า มีสันติสุขในการดูแลคนไข้ ทำงานวอร์ดตามที่ได้รับมอบหมายด้วยความสุขอย่างไม่น่าเชื่อ

พญ นิศารัตน์ โอภาสเกียรติกุล