โอปอขอบคุณพระเจ้าที่ได้ร่วมเสวนาในครั้งนี้ รู้สึกว่างานเป็นพระพรสำหรับกลุ่มคนหลายกลุ่ม แม้ว่าประเด็นนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันค่อนข้างมากในหลายๆ สาขาอาชีพเพราะแต่ละกรณีก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ซึ่งโอปอสรุปสิ่งที่ได้จากเนื้อหาที่วิทยากร 4 ท่านจากด้านสูติแพทย์ ด้านกฎหมาย ด้านจิตแพทย์ และด้านพระคัมภีร์ได้ดังนี้
1. ในมุมมองของ คริสเตียน: การทำแท้งถือเป็นความบาปอย่างหนึ่ง แต่เราไม่ควรตัดสินใครว่าเคยทำแท้ง หรือคิดทำแท้งไหม แต่เราควรรัก รับฟังและ ทำความเข้าใจเขา เพื่อจะนำเขามาหาพระเจ้า
2. เรามีโอกาสได้ให้คำปรึกษา หรือรู้ว่าจะมีใครกำลังตัดสินใจทำแท้งอยู่ ก็เป็นหน้าที่ของคริสเตียนที่ควรพยายามพูดไม่ให้เขาทำบาป หรือโน้มน้าวไม่ให้เขาทำ โดยดูมุมมองความคิดของเขา และดูว่าเราสามารถช่วยอะไรได้บ้าง ช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์ช่วงการตั้งครรภ์ ช่วยหาคนเลี้ยงเด็กหลังจากคลอดแล้ว หรือหาที่พักที่เขาจะสามารถตั้งครรภ์ต่อได้อย่างปลอดภัย
3. ในมุมมองของบุคคลากรทางการแพทย์คริสเตียน ได้รู้และมีหลักคิดของตัวเอง ว่าในกรณีไหนควรตัดสินใจอย่างไร เช่น ในกรณีที่ต้องเลือกระหว่างชีวิตลูกและแม่ แล้วพยายามยื้อถึงที่สุดแล้ว ถ้าต้องเลือกแม่แล้วเอาลูกออกเราจะทำแท้งให้เขาได้ไหม ทั้งนี้ต้องชั่งน้ำหนักในแต่ละเคสดู ซึ่งอาจารย์ได้แบ่งปันว่า ได้ตัดสินใจทำให้ ตามหลักจรรยาบรรณแพทย์
หลังจากเสวนา ก็มีหลายประเด็นที่โอปอต้องศึกษาหาคำตอบและขอสติปัญญาจากพระเจ้าต่อ ยกตัวอย่างเช่นพระคัมภีร์ บอกว่า อย่าฆ่าคน ซึ่งแปลว่าอย่าฆ่าคนแบบผิดกฎหมาย ถ้าเป็นแบบนี้เราจะแปลได้ไหมว่า การฆ่าคนแบบถูกกฎหมายทำได้
และประเด็นเรื่อง ชีวิตเริ่มต้นเมื่อไหร่ ? เป็นตอนที่ไข่กับสเปิร์มมาผสมกันเลยใช่ไหม หรือจะนับที่อายุครรภ์ช่วงไหน ซึ่งอาจารย์บอกว่าตั้งแต่ ไข่กับสเปร์มมาผสมกัน ก็ถือเป็นชีวิตแล้ว
ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้การทำเด็กหลอดแก้ว ก็ถือเป็นการฆ่าคนหรือไม่ เพราะต้องเอาไข่ผสมสเปิร์ม จนได้ตัวอ่อนหลายตัวในกระบวนการ แต่มีแค่บางตัวเท่านั้นที่ผ่านการคัดเลือก
ทีมงาน นคท. และ GCF คงต้องจัดเสวนา ทำ(ไม่)แท้ง 2 ในเร็วๆนี้แล้วค่ะ เพราะมีประเด็นที่ควรคุยต่ออีกมากเลย
ขอบคุณพระเจ้าที่เรามีกันและกัน ทำให้เราสามารถจัดงานดีๆแบบนี้ได้นะคะ แม้ว่าเราจะมีปัญหาทางเทคนิคทำให้การบันทึกภาพและเสียงมีปัญหา แต่เราจะสรุปเนื้อหาและเผยแพร่ในสารร่วมฉบับต่อไปนะคะ
แบ่งปันข้อคิดจากการเสวนา ทำ(ไม่)แท้ง
จาก น้องโอปอ ชัญญา อุทารวุฒิพงศ์ นศ.แพทย์