จากใจเลขาฯ เดือนเมษายน 2020
top of page

จากใจเลขาฯ เดือนเมษายน 2020

การเดินทางแห่งความเชื่อ

ถ้าชีวิตคือการเดินทาง ผมเชื่อว่าตอนนี้เราทุกคนกำลังเดินบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ถนนที่ขรุขระ มืดทึบ และมีอันตรายมากมายที่คาดเดาไม่ได้

ในพระธรรมยากอบ 4:13-17 ได้ให้ภาพการเดินทางไปมาของเหล่าพ่อค้าที่ทำการค้าขายอยู่ทั่วแผ่นดินโรม และผู้เชื่อหลายคนก็ประกอบอาชีพนี้ด้วย พวกเขาต่างก็เป็นนักธุรกิจที่วางแผนด้วยความมั่นใจว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะสามารถเดินทางไปในแต่ละที่ และจะทำกำไรในทุกที่ที่พวกเขาไป


“พวกเขามั่นใจว่าสามารถกำหนดและควบคุมชีวิตของตนเองได้ด้วยมือของพวกเขาเอง” แต่ยากอบกำลังเตือนพวกเขาว่าการเดินทางด้วยทัศนคติแบบนี้ไม่ถูกต้อง เพราะพวกเขามีความมั่นใจผิดใน 3 เรื่องคือ


ฟังให้ดีนะ ท่านทั้งหลายที่พูดว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะเข้าไปในเมืองนี้เมืองนั้น จะอยู่ที่นั่นสักปีหนึ่ง และจะค้าขายแล้วได้กำไร” (ข้อ 13)



ความมั่นใจผิดๆ อย่างที่ 1

พวกเขามั่นใจว่าสามารถกำหนดชีวิตและลมหายใจของตัวเองได้ คำพูดที่บอกว่า วันนี้...”, “พรุ่งนี้...”, “ปีหนึ่ง...” กำลังสะท้อนถึงความมั่นใจของพวกเขาว่าจะสามารถมีชีวิตได้ตราบเท่าที่ตนเองต้องการ


ความมั่นใจผิดๆ อย่างที่ 2

พวกเขามั่นใจว่ามีสิทธิ์ในการเลือกใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ คำพูดที่พวกเขาบอกว่า วันนี้หรือพรุ่งนี้เราจะ...”, “จะอยู่ที่นั่นสักปีหนึ่ง และจะค้าขาย กำลังสะท้อนว่า เขานี่แหละคือเจ้านายของตัวเองและเขานี่แหละมีสิทธิ์ที่จะตัดสินว่าตนเองจะทำอะไร


ความมั่นใจผิดๆ อย่างที่ 3

พวกเขามั่นใจในความสามารถของตนเอง ความมั่นใจว่า “จะค้าขายแล้วได้กำไร” กำลังสะท้อนว่าความสำเร็จจะจากความสามารถและความฉลาดที่พวกเขามี แต่แล้วยากอบก็ได้นำพวกเขามาถึงความจริง 3 อย่าง


แต่ท่านไม่รู้เรื่องของวันพรุ่งนี้ ชีวิตของพวกท่านเป็นเหมือนอะไร? ก็เป็นเหมือนหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่แล้วก็จางหายไป(ข้อ 14)

ความจริงอย่างที่ 1 ชีวิตของพวกเขาสั้นเหมือนหมอกที่ปรากฏอยู่เพียงชั่วครู่ ยากอบกำลังว่า ความมั่นใจของเหล่าพ่อค้าที่บอกว่าจะตนเองมีชีวิตอยู่ถึงหนึ่งปี, พรุ่งนี้ หรือแม้แต่อยู่ให้พ้นวันนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

แต่พวกท่านควรจะพูดว่าถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงโปรด เราจะยังมีชีวิตอยู่ และจะทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้น” (ข้อ 15)


ความจริงอย่างที่ 2 คือ พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมและครอบครองอย่างแท้จริง ซึ่งยากอบบอกว่า ชีวิตหรือแผนงานใดๆ อยู่ในกำมือของพระเจ้า พระเจ้าเป็นเจ้าของชีวิต และเป็นเจ้านายของพวกเขาทุกคน และความจริงนี้ยิ่งต้องทำให้เขาถ่อมใจลง พึ่งพาพระเจ้า และขอบคุณพระองค์สำหรับโอกาสที่ได้ใช้ชีวิตและทำสิ่งต่างๆ

แต่เวลานี้ท่านกลับอวดอ้างด้วยความทะนงของตนเอง การอวดอ้างทุกอย่างนั้นล้วนเป็นความชั่ว เพราะฉะนั้น คนที่รู้ว่าอะไรเป็นความดีที่ต้องทำ แต่ไม่ได้ทำ คนนั้นจึงมีบาป (ข้อ 16,17)


ความจริงอย่างที่ 3 คือ การมั่นใจและอวดอ้างในสติปัญญาและความสามารถของตัวเองถือเป็นความบาปอย่างหนึ่ง ยากอบไม่ได้ต่อต้านการวางแผนงาน แต่จากทัศนคติของผู้เชื่อที่เป็นพ่อค้าเหล่านี้สะท้อนว่าพวกเขากำลังดำเนินชีวิตแบบลืมพระเจ้าและกำลังมั่นใจในตัวเองแทน ความจริงหนึ่งในเฉลยธรรมบัญญัติ 8:11-20 บอกเราว่า “กำลังและเรี่ยวแรง” ก็เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้พวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งสิ่งดีที่ต้องเขาต้องกลับใจทำคือการรู้ว่าตัวเองจำกัด พึ่งพาพระเจ้า และไม่อวดตัว


เมืองอู่ฮั่นที่เชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการแพร่เชื้อ covid 19 เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลหูเป่ย และมีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 7 ของจีน ด้วยที่ตั้งของเมืองที่มีแม่น้ำแยงซีและสามารถเชื่อมต่อกับหลายๆ เมืองได้ ทำให้อู่ฮั่นถูกหมายมั่นปั้นมือให้เป็นเขตเศรษฐกิจของจีน และทำให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่มากมายจากทั้งในและนอกประเทศ แต่เมื่อเกิดการระบาด วันหนึ่งอู่ฮั่นก็กลายเป็นเมืองร้างได้จากที่เคยมีผู้คนใช้ชีวิตอยู่ถึง 11 ล้านคน และจากสถิติความรุนแรงของการระบาดในลำดับต้นๆ นั้น เกิดขึ้นในประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาแล้ว (ข้อมูลสถิติจากเดือนมีนาคม)


การศึกษาที่เราได้รับ ความรู้ ข่าวสารข้อมูลที่เรามี วิทยาการหรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดที่เรามีไม่ได้ทำให้เราหนีรอดจากไวรัสนี้ได้ เหตุการณ์นี้จึงเป็นอีกสัญญาณเตือนหนึ่งที่ให้เราเห็นว่า มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ และพระเจ้าก็ยังคงเป็นพระเจ้า


พี่น้องครับ ความจริงนี้ทำให้เราเรียนรู้ด้วยกันว่า เราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรกับเราและโลกของเราในวันนี้และในวันต่อๆ ไป และจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เราทุกคนได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ จิตใจ จิตวิญญาณ ความเป็นและความตายอยู่ใกล้มากกว่าที่เราคิด แต่สถานการณ์นี้เป็นโอกาสด้วยเช่นเดียวกัน

  • โอกาสที่เราจะได้ถ่อมตัวลงและใช้ชีวิตด้วยการพึ่งพาพระคุณของพระเจ้ามากยิ่งขึ้น พี่น้องสามารถแบ่งปันบทเรียนที่ได้เรียนรู้กับพระเจ้าให้กับพวกเราผ่านช่องทางต่างๆ ของ นคท. เพื่อหนุนใจซึ่งกันและกันได้

  • โอกาสที่ได้รู้จักและเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของเราในบางเรื่อง โดยเฉพาะเป้าหมายการใช้ชีวิตของเราในโลกนี้

  • โอกาสที่เราจะได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อดูแลกันและกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งพี่น้องเองสามารถส่งคำหัวข้ออธิษฐานมาให้สต๊าฟอธิษฐานเผื่อได้ผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ของ นคท.

ผมไม่รู้ว่าเราจะยังคงเดินไปในเส้นทางแห่งความท้าทายนี้อีกนานแค่ไหน แต่การเดินทางนี้เรามีพระเจ้าและจะมีพี่น้องที่ร่วมไปกับเราด้วยความเชื่อมั่นในพระเจ้าว่าพระองค์ทรงอยู่เหนือเหตุการณ์เหล่านี้


อนุชา ขอบปี

เลขาธิการ

ดู 110 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page